5 โรคที่พบบ่อยใน ❝สุนัข❞🐶
- กรุงเทพทิพโอสถ
- 9 เม.ย.
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 10 เม.ย.
การดูแลสุนัขไม่ได้หมายถึงเพียงแค่การให้อาหาร น้ำ และความรักเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเฝ้าระวังสัญญาณของอาการป่วยที่อาจส่งผลต่อสุขภาพและความสุขของสุนัข เช่นเดียวกับมนุษย์ สุนัขมีโอกาสเกิดปัญหาสุขภาพต่างๆได้ บทความนี้จะเผย 5 โรคทั่วไปที่สามารถส่งผลต่อสุนัข เพื่อช่วยเจ้าของสัตว์เลี้ยงดูแลเพื่อนคู่ใจให้สุขภาพแข็งแรงและปลอดภัย

1. โรคไข้หัดสุนัข
โรคไข้หัดสุนัข (Canine Distemper) เป็นโรคไวรัสรุนแรงที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินอาหาร และระบบประสาทของสุนัข อาการที่อาจพบได้แก่ ไข้ ตาแฉะ น้ำมูกไหล ไอ และอาเจียน ในกรณีรุนแรงอาจมีภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาท
การป้องกันที่ดีที่สุดคือการฉีดวัคซีนให้ลูกสุนัขตั้งแต่อายุ 6 ถึง 8 สัปดาห์ และแนะนำให้ฉีดวัคซีนกระตุ้นที่อายุ 12 และ 16 สัปดาห์ สถิติแสดงให้เห็นว่า 80% ของลูกสุนัขที่ไม่ได้รับวัคซีนอาจติดเชื้อไวรัสร้ายแรงนี้ หากคุณพบอาการใด ๆ ที่กล่าวถึง ควรรีบพบสัตวแพทย์ทันที
2. โรคผิวหนังจากเชื้อรา
โรคผิวหนังจากเชื้อรา (Fungal Skin Infections) เป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไปในสายพันธุ์สุนัขต่างๆ ภาวะนี้เกิดจากการติดเชื้อราที่ทำให้เกิดการอักเสบของผิวหนัง อาการคัน และการหลุดร่วงของขน เช่น กลากอาจส่งผลต่อผิวหนังและขน ทำให้เกิดจุดโล้นเป็นหย่อม ๆ
การรักษามักใช้ยาต้านเชื้อราและการบำบัดทางยาเฉพาะที่ เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องปรึกษาสัตวแพทย์หากคุณพบรอยแดง อาการคันที่รบกวน หรือบริเวณที่ขนหลุดร่วง การรักษาบริเวณที่พักอาศัยของสุนัขให้สะอาดและแห้งสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ โดยจากการศึกษาพบว่า มากกว่า 10% ของสุนัขอาจมีปัญหาโรคผิวหนังจากเชื้อราในบางช่วงของชีวิต
3. โรคตับอ่อนอักเสบในสุนัข
โรคตับอ่อนอักเสบ (Pancreatitis) เกิดขึ้นเมื่อตับอ่อนเกิดการอักเสบและการย่อยอาหารทำงานผิดปกติ อาการที่พบได้ทั่วไปได้แก่ อาเจียน ท้องเสีย น้ำหนักลด และเบื่ออาหาร งานวิจัยแสดงให้เห็นว่า สุนัข 1 ใน 200 ตัว อาจมีโรคตับอ่อนอักเสบ โดยปัจจัยเสี่ยงมักเกี่ยวข้องกับอาหารไขมันสูง
การรักษามักต้องได้รับการดูแลจากสัตวแพทย์ และคุณอาจต้องปรับเปลี่ยนอาหารของสุนัขเพื่อหลีกเลี่ยงการอักเสบในอนาคต ควรตรวจสุขภาพเป็นประจำและปรึกษาแผนอาหารกับสัตวแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสุนัขของคุณมีความเสี่ยงต่อโรคนี้
4. โรคพยาธิหนอนหัวใจ
โรคพยาธิหนอนหัวใจ (Heartworm Disease) เกิดจากพยาธิที่เข้ามาในระบบเลือดของสุนัข ซึ่งนำไปสู่ปัญหาที่ร้ายแรงเกี่ยวกับหัวใจและปอด อาการที่อาจพบได้แก่ อาการเฉื่อยชา ไอ และหายใจลำบาก โดยที่สมาคมพยาธิหนอนหัวใจแห่งอเมริกาได้ระบุว่า สุนัข 1 ใน 200 ตัว อาจติดโรคพยาธิหนอนหัวใจในบางช่วงของชีวิต
ยาป้องกันที่สัตวแพทย์สั่งจ่ายสามารถลดความเสี่ยงของการติดเชื้อได้อย่างมาก การตรวจสุขภาพเป็นประจำทุก 6 ถึง 12 เดือนสามารถช่วยให้มั่นใจว่าสุนัขของคุณไม่มีพยาธิหนอนหัวใจ
5. โรคหลอดลมอักเสบ ติดต่อของสุนัข
โรคหลอดลมอักเสบ (Kennel Cough) เป็นโรคทางเดินหายใจที่แพร่กระจายง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีสุนัขอยู่รวมกันมาก พบว่าอาการไอที่คงอยู่จะคล้ายเสียงเหมือนห่าน ในบางกรณีอาจพัฒนาเป็นปัญหารุนแรงทางเดินหายใจ
วัคซีนสามารถช่วยป้องกันโรคหลอดลมอักเสบ และหากสุนัขของคุณมีอาการไอเป็นเวลานาน ควรรีบพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์เพื่อการประเมินจริง ๆ โรคหลอดลมอักเสบคิดเป็นประมาณ 70% ของกรณีที่พบในสถานรับเลี้ยงสุนัข
สัญญาณเริ่มต้นของความเจ็บป่วยทั่วไปในสุนัข
การติดตามสุขภาพของสุนัขเป็นสิ่งสำคัญ อาการเริ่มต้นของโรคทั่วไปได้แก่อาการเบื่ออาหาร ไข้ และปัญหาทางเดินอาหาร หากคุณพบพฤติกรรมผิดปกติ ควรรีบปรึกษาสัตวแพทย์ทันที
สรุป
การทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคทั่วไปของสุนัขและอาการที่เกิดสามารถช่วยเจ้าของสัตว์เลี้ยงดูแลสุขภาพของสัตว์เลี้ยงอย่างมีประสิทธิภาพ การตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์เป็นประจำและการฉีดวัคซีนตามที่แนะนำมีความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาสุขภาพของสุนัข แสดงความรักต่อเพื่อนสี่ขาของคุณด้วยการดูแลที่พวกเขาต้องการ เพื่อให้พวกเขามีชีวิตที่มีความสุขและสุขภาพดี
Comments